บทความนี้เป็นการอธิบายสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ความเป็นมาเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ผมจะบอกต่อไป ก็ไม่รู้จะพิสูจน์อย่างไรให้เป็นในแนวทางวิทยาศาสตร์ จึงขอออกตัวก่อนว่า"เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ"จะเชื่อหรือไม่ก็ไม่ว่ากัน ปกติแล้วมักไม่นิยมล้างหรือปรับแต่งใดๆกับเครื่องรางของขลังทุกชนิด แต่สำหรับพระเมฆสิทธิ์ เป็นข้อยกเว้น คำว่า"แร่เมฆสิทธิ์"หมายถึง"แร่มหัศจรรย์ที่ต้องอาศัยน้ำมาหล่อเลี้ยงตัวเอง เพื่อปลดปล่อยพลังออกมาสู่ภายนอก"พลังงานที่ปล่อยออกมา เรียกง่ายๆก็คือ "พลังพุทธคุณ"จะด้านไหน ก็ตามที่คนรุ่นก่อนบอกต่อกันมาไม่ได้มีการเชียร์พระเพื่อขายแบบปัจจุบัน และการล้างไม่ได้เป็นตัวชี้ขาดว่าเก๊/แท้ แต่การล้างเพื่อ ต้องการเพิ่มพลังให้เนื้อเมฆสิทธิ์ ส่วนตัวชี้ขาดว่าใช่เมฆสิทธิ์หรือไม่ ก็ต้องกลับไปดูบทความก่อนๆที่ผมบอก เป็นข้อๆไว้5,6ข้อ และต้องมีให้ครบทุกข้อด้วย ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้
การล้างเป็นการเอา"ขี้เมฆสิทธิ์"ที่เกาะที่ผิว(เปลือกหุ้ม)รวมถึงสีเหลือบๆเขียว-เหลือง-แดง ออกไปด้วย ทำให้เห็นเนื้อพระสีคล้าย"เงินวาวๆเป็นประกาย" ทำไมเป็นสีนี้? ผมยกตัวอย่าง ทุเรียนที่วางขายในจานโฟมห่อทับด้วยฟิล์มถนอมอาหาร(wrap)เรามองเข้าไป จะเห็นเป็นสีเหลืองจากเนื้อทุเรียน ผิว(เปลือกหุ้ม)ของเมฆสิทธิ์ที่ล้างสะอาดแล้วก็เหมือนwrapมาห่อหุ้มเนื้อเมฆสิทธิ์(สีเงินวาวๆ)ที่เปรียบเหมือนเนื้อทุเรียน คุณเห็นภาพละยังครับ คุณก็ต้องเห็นเมฆสิทธิ์ที่ล้างแล้วเป็นสีเงินวาวๆเพราะเป็นสีของเนื้อเมฆสิทธิ์ เนื้อเมฆสิทธิ์แค่แช่น้ำธรรมดาไว้สีก็ออกขาวๆแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้กรดหรือเคมีแรงๆมาขัดถูกก็ได้
จากภาพเป็นการล้างแบบนุ่มนวล เจตนาอยากให้มี"ขี้เมฆสิทธิ์เหลืออยู่เป็นที่ระลึก(หากล้างหมดจะไม่มีแล้วเพราะขับออกมาครั้งเดียวตอนก่อกำเนิดพร้อมกับการสร้างเปลือกหุ้ม จากภาพลูกอมที่แตก จะเห็นเนื้อเมฆสิทธิ์เปลี่ยนเป็นสีเหลืองในบางส่วนถูกน้ำยาล้างจานกัด เพราะแร่เมฆสิทธิ์ บอบบางกว่าแร่อื่น ใช้เวลาก่อกำเนิดไม่กี่ชั่วโมง ในขณะที่แร่อื่นใช้เวลาเป็นล้านๆปี
การเปลี่ยนสีกลับมาเหมือนเดิม โดยวางทิ้งไว้ให้ถูกอากาศ จะมีการ"คายน้ำ"ออกมาเกาะที่ผิว (เหมือนการขับเหงื่อ)จะเป็นสีเดิม ใช้เวลาไม่เกิน2เดือน จะดูสวยกว่าเดิมเพราะคราบคล้ำๆของ"ขี้เมฆสิทธิ์"ถูกล้างออกไปแล้ว